สยามรัฐ

  1. ร้าวลึก !?

     

                เกิดคำถามตามมาทันทีเมื่อ “ไชยชนก ชิดชอบ” สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะเลขาธิการพรรค ไม่เพียงแต่ลุกขึ้นอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เท่านั้น แต่เจ้าตัวยังประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยกมือโหวตสนับสนุน ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อย่างแน่นอน !

                หาก ไชยชนก ไม่ใช่ “ลูกชายคนโต” ของ “ครูใหญ่” อย่าง “เนวิน ชิดชอบ”  ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด และยังถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลเหนือพรรคภูมิใจไทยแล้ว

                คงไม่เกิดแรงสั่นสะเทือนจาก “รัฐสภา” กระทบไปถึง “ตึกไทยคู่ฟ้า” ที่ทำเนียบรัฐบาล อันมี “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี “ลูกสาว” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ และผู้ทรงอิทธิพลเหนือ “พรรคเพื่อไทย” นั่งปฏิบัติงานอยู่อย่างแน่นอน !

                ไชยชนก ประกาศชัดถ้อย ชัดคำว่าเขาจะไม่โหวตหนุนร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รีบออกมาชี้แจงทันทีว่าเป็น “ความเห็นส่วนตัว” เป็นเอกสิทธิของไชยชนก ในฐานะสส. คนหนึ่ง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ “มติพรรคภูมิใจไทย” อย่างแน่นอน

                แต่ดูเหมือนว่าการออกมาชี้แจงจาก อนุทิน ยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ สังคมหรือโดยเฉพาะ “แกนนำพรรคเพื่อไทย” เองพอใจในคำตอบ เพราะอย่าลืมว่าคนที่ลุกขึ้นมาประกาศท่าทีคือ “ลูกชาย” ของครูใหญ่เนวิน

                ด้วยเหตุนี้ ทั้ง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรมว.กลาโหม จึงยากที่จะเก็บความไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นตคงไม่ตั้งคำถามว่า พรรคภูมิใจไทย สรุปแล้ว “ใคร” เป็นหัวหน้าพรรค ไชยชนกหรืออนุทิน เพราะในเมื่อร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ได้ผ่านความเห็นชอบจากครม.มาแล้ว เท่ากับว่า “พรรคร่วมรัฐบาล” ย่อมเห็นพ้องตรงกันหมดแล้ว ไม่ใช่หรือ

                ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นอาจกลายเป็นการตอกย้ำถึงสัมพันธภาพระหว่าง “พรรคเพื่อไทย”กับ “พรรคภูมิใจไทย” นั้นอยู่กันในลักษณะใด  ที่ผ่านมา อาจถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเหมือนการ “ตบจูบ” แต่เมื่อ ลูกชายครูใหญ่เนวิน สวมบทแข็งกร้าว ประกาศท่าทีเช่นนี้แล้ว “มติ” ของพรรคภูมิใจไทย เมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสภาฯ ในสมัยประชุมหน้า จะออกมาเช่นใด

                และแม้ นายกฯแพทองธารจะบอกกับสื่อว่า เธอเองไม่ติดใจ และเรื่องนี้ อนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ส่งไลน์มาขออภัยกันแล้วก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่า ไม่มีใครเชื่อว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยการรอมชอมได้อีก !

  2. ศรพระราม (11/4/68)

    “สยามรัฐ” ยืนหยัดบนบรรณพิภพและแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกช่องทาง ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม”…*…

    ทำไมพรรคการเมืองที่ช่วงเลือกตั้งเชียร์ “กาสิโน” ถึง “พลิกลิ้น” ในตอนนี้ แล้วอ้างว่าต้องศึกษาให้ดีและรอบด้านก่อน ทั้งที่ผ่านการศึกษามาหลายคณะ หลายปี จนหมดสมัยประชุมสภาฯ กันไปแล้ว แต่ผลการศึกษากลับถูกวางบนหิ้งดูเหมือนว่า...ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ “ผลการศึกษา” แต่อยู่ที่ “ใครมีอำนาจ” จัดสรรทรัพยากร หรือ “ผลประโยชน์” มากกว่าหรือไม่?...*...

    สังเกตได้จากอาการ “ยึกยัก” ผ่าน “ไชยชนก ชิดชอบ” สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศกลางสภาฯ ว่า “จะไม่มีวันยกมือโหวตกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ก็ยิ่งชัด! เมื่อลูกของ “ครูใหญ่” ไม่เอา ฝ่ายค้านก็ไม่เอา แล้วมันจะไปรอดได้อย่างไร?...*...

    ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร จะ “ชะลอ” ไม่เร่งผลักดันร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะหากดันทุรังไป ก็อาจถูก “บิดเกม” อีกระลอก เหมือนกับตอนเกม “วอล์กเอาต์” แก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคภูมิใจไทย ที่อ้างว่า “ไม่อยากเสี่ยงคุก”...*...

     ล่าสุดก็มีข่าวว่ากำลังจะมีคนยื่นเรื่องให้ “ป.ป.ช.” ตรวจสอบจริยธรรม สส. ที่ยกมือสนับสนุนร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คล้ายกับกรณี 44 สส. ที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งดูเหมือนจะเป็น “ช่อง” ให้ฝ่ายตรงข้ามใช้ล้มเกมเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อีกครั้ง...*...

    ฉะนั้น ก็ต้องติดตามว่า “นายใหญ่” กับ “ครูใหญ่” จะแก้หมากการเมืองกันอย่างไร โดยเฉพาะหลังจากที่ ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเวทีในงานสงกรานต์ของพรรคเพื่อไทย ปลุกขวัญกำลังใจสมาชิกพรรคว่า ...*...

    “ขอบคุณที่เชิญผมมาวันนี้ ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคตั้งแต่สมัยไทยรักไทย โดยเฉพาะสงกรานต์ปีนี้ ถือเป็นปีที่ท้าทาย ทั้งต่อรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เปรียบเหมือนตอนผมเป็นนายกฯ ในยุควิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 ที่เหมือนหลังคาบ้านโดนลมพัดเปิด แต่ปีนี้คือวิกฤตเชิงโครงสร้าง ต้องฟื้นฟูครั้งใหญ่ เราถือว่าปีนี้คือปีแห่งการเดินหน้าเพื่อความสำเร็จ สิ่งที่ไม่ดีต้องช่วยกันกำจัดให้หมดไปจากประเทศไทย จากรัฐบาล และจากพรรคเพื่อไทย ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ เพื่อเดินหน้านโยบายของพรรคสู่การเลือกตั้งในปี 2570 ไม่ใช่ปีหน้า ขออย่าหวั่นไหว แม้จะมีคนพยายามปั่นกระแส ขอให้ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา แล้วหลังสงกรานต์ บ้านเมืองจะค่อย ๆ คลี่คลาย ทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคง ซึ่งรัฐบาลจะได้รับความร่วมมือมากขึ้น และจะเห็นผลชัดเจนในปี 2569”...*...

    อย่างไรก็ตาม ช่วงสงกรานต์นี้ หลัง “นายกฯ อิ๊งค์” เป็นประธานเปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ที่ท้องสนามหลวงในช่วงเย็นวันที่ 12 เมษายนแล้ว บ่ายวันที่ 13 เมษายน จะควง “ทักษิณ” ขึ้นเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน “World Songkran Thapae Chiangmai” บนถนนท่าแพ งานนี้จึงถือเป็นจังหวะ “เช็กเรตติ้ง” สำคัญ หลังผ่านศึกอภิปรายและสารพัดประเด็นร้อน ทั้งทางเศรษฐกิจและสงครามการค้า…*…

    ส่วน “ศรพระราม” อยู่โยงเฝ้าพระนครช่วงสงกรานต์ ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านเดินทางท่องเที่ยวกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพทั้งไปและกลับ ง่วงไม่ขับ  เมาไม่ขับ ขับไม่โทร เฮๆงรวยๆ ฉ่ำๆรับสงกรานต์ ...*...

    คนรักงานอาร์ต และอาร์ตคอลเลคเตอร์ห้ามพลาด! “เซ็นทรัลชิดลม”  ตอกย้ำการเป็นอาร์ตคอมมูนิตี้สุดชิคใจกลางกรุง ชวนเสพงานศิลป์กับนิทรรศการศิลปะร่วมสมัย “Scroll : A Solo Art Exhibition by Mit Jai Inn” โดย “คุณมิตร ใจอินทร์” ศิลปินร่วมสมัยระดับแนวหน้าของประเทศไทย ในคอนเซ็ปต์ “Scrolls” ที่เป็นการผสมผสานระหว่างจิตรกรรมม้วนแบบตะวันออกและจิตรกรรมผ้าใบแบบตะวันตกควบคู่ไปกับงานจัดวางในรูปแบบใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อนิทรรศการนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งผลงานจากชุด Floor Work งานจัดวางที่เปลี่ยนผืนผ้าใบให้กลายเป็นพื้นที่ทางสถาปัตยกรรม ผ่านการผสมผสานสีสันที่สดใสบนพื้นผิว งานนิทรรศการ เข้าชมฟรี! จัดแสดง 2 ช่วง ช่วงแรกตั้งแต่วันนี้ – 22 เม.ย. และช่วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.  – 9 มิ.ย. 68 ที่ Residence Space และ Personal Shopping Suite ชั้น 1 เซ็นทรัลชิดลม ...*...

    “ทิพยประกันภัย” เชิญชวนร่วมโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 51 จัดที่ ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล จังหวัดพังงา เพื่อร่วมกิจกรรมตามรอยพระราชจริยวัตรของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 26 – 27 เม.ย. ที่ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล จังหวัดพังงา เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ...*...

    ไอคอน เชิญชมนิทรรศการ “รูป นาม ไทย” ผลงานจากนักศึกษาสาขาวิชาจิตรกรรมไทย ภาควิชาศิลปะประจำชาติ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ในงาน “Grad and Glow Arts Thesis Showcase”  ได้ตั้งแต่วันนี้- 16 เม.ย. ที่ ICON Art & Culture Space ชั้น 8, ICONSIAM

     

    รางวัลสุดยอด...นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี มอบรางวัลสุดยอด สินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งปี “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2025” แก่ จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จากผลิตภัณฑ์ จระเข้ คิ้ว GREEN ที่นำเสนอมาตรฐานใหม่ของวัสดุตกแต่ง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรม GPVC (Green PVC) ไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากสารตะกั่ว แคดเมียม และสารโลหะหนักอันตรายกว่า 20 ชนิด โดยมี ดร.จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์ เป็นตัวแทนรับมอบ ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ

    ติดเข็มกลัดดอกลำดวน...แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกิจกรรมติดเข็มกลัดดอกลำดวน เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2568 โดยมี วราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม  จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรวงศ์ เทียนทอง  รมว.ท่องเที่ยว และกีฬา ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย อุษา เสมคำ นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องหลานม่า และ เปาวลี พรพิมล ศิลปินจีเอ็มเอ็ม มิวสิค ร่วมงาน  ที่ทำเนียบรัฐบาล 

    เปิดโครงการ...พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัด กทม. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของกรุงเทพมหานคร "หลักสูตรการฝึกอบรมปฐมนิเทศข้าราชการกรุงเทพมหานคร รุ่นที่ 9-10" ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร และ ผู้เข้ารับการอบรม ร่วมงาน ที่โรงแรม เอส ดี อเวนิว เขตบางพลัด เมื่อวันก่อน

    วิ่งการกุศล...ดร.พรชัย  มงคลวนิช  อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม และ ธราพร อำนาจสาร ผอ. เขตภาษีเจริญ เป็นประธานเปิดงานวิ่งการกุศล Siam walk & Run เพื่อหารายได้มอบให้ BKK Food Bank   และมอบเครื่องอุปโภค บริโภคให้เขตภาษีเจริญนำไปมอบประชาชนกลุ่มเปราะบางต่อไป ที่ศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยสยาม เมื่อวันก่อน

    บริจาคทรัพย์...ชัยวัฒน์ พัฒนเจริญ ประธานชมรมผู้ประกอบการหนองแขม/ปธ.มูลนิธิกวนอิมธรรมสถานหนองแขม บริจาคทรัพย์สินเพื่อติดตั้งเครื่องปรับอากาศและห้องกระจกให้กับมูลนิธิฯ และได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนผู้สูงอายุเขตหนองแขม โดยบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วน และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุเขตหนองแขม ที่มูลนิธิกวนอิมธรรมสถาน เมื่อวันก่อน

    แสดงความเสียใจ...ทำนอง พลทองมาก กก.ผจก.ซี.พี.ลาว  พร้อมด้วย เลสเตอร์ หมิง เหลียง คู ผอ.สำนักองค์กรสัมพันธ์ต่างประเทศ ร่วมลงนามในสมุดแสดงความเสียใจต่อการถึงแก่อสัญกรรมของ พล.อ.คำไต สีพันดอน อดีตประธานคณะบริหารงานศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และอดีตประธานประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันก่อน

    ให้โลหิตให้ชีวิต...เอมอร ศรีวัฒนประภา ปธ.กก.กลุ่ม คิง เพาเวอร์/ปธ.กก.มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา สานต่อปณิธานแห่ง “การให้” จัดกิจกรรม “ให้โลหิต ให้ชีวิต” ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 โดยมี อภิเชษฐ์  ศรีวัฒนประภา และ รวิ  อิทธิระวิวงศ์ พร้อมด้วยพนักงานร่วมแสดงพลังบริจาคโลหิตเพื่อส่งมอบให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ใช้ในการรักษาพยาบาลและช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เมื่อวันก่อน

    สิงห์ซัมเมอร์แคมป์...อรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผจก.ฝ่ายงานกิจกรรมเพื่อสังคม บุญรอดบริวเวอรี่ ร่วมเปิดโครงการสิงห์ ซัมเมอร์แคมป์ ปีที่ 14 ค่ายฤดูร้อน เพื่อเสริมสร้างทักษะความรู้รอบตัวผ่าน 7 กิจกรรมการเรียนรู้ ในปีนี้มีเด็กๆ เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่งกว่า 1,000 คนจากทั่วประเทศ โดยมี ดร.สมใจ สิริตระการกิจ รองคณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ นพ.จิรพงษ์ ศุภเสาวภาคย์  ทีมกู้ชีพนเรนทร โรงพยาบาลราชวิถี ร่วมเปิดงาน ที่วังน้อย เบเวอเรช

    เลี้ยงต้อนรับ...มาสเตอร์เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนทำอาหารและเชฟแห่งภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ และ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล/ประธานกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2025 จัดเลี้ยงต้อนรับ ราอูล โรชา คานตู ประธานคณะกรรมการการประกวดมิสยูนิเวิร์ส  และ คณะผู้บริหาร ที่ภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ โดยมี จักรพงษ์ ราจุฑาธิบดิ์ เทเรซ่า ชัยวิสุทธิ์  และ ราเชล กุปตะ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2024 ร่วมงานด้วย

  3.  เสียกระบวน !?

     การที่ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุกลางวงที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2568  ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่ามี “เกมการเมือง” บิดเบือน ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่าเป็นเรื่องกาสิโน


      ทั้งที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย กาสิโน 10% ของพื้นที่แค่นั้น ดูเหมือนจะเป็นปฏิกิริยา “โต้กลับ” หรือสื่อไปถึงใคร อย่าง “จงใจ” หรือไม่ ? 
     “ อันนี้เป็นเกมการเมือง เป็นการบิดเบือน ในเรื่องของความหมายหรือเจตนา นโยบายนี้อยู่ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอยู่แล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งเราจะได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ๆ ทางออกใหม่ๆ” ( 9เม.ย.68) 


     การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เมื่อไม่มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  ตามที่ นายกฯได้แถลงข่าวกับพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา  โดยจะไปรอเข้าสภาฯในสมัยประชุมหน้านั้น ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทย และโดยเฉพาะ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ รู้ดีว่า เสียงต่อต้านจากมวลชนนอกสภาฯ ยังไม่สุ่มเสี่ยงและกดดันมากเท่ากับ “มือที่มองไม่เห็น” ในเวทีสภาฯ อันประกอบไปด้วย สส.จากรัฐบาลด้วยกันเอง ที่ปะปนและเดินสวนกันไปมา 


     ดังนั้น การที่ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถูกเลื่อนออกไปนั้น จึงอาจไม่ใช่เพียงการที่ “พรรคเพื่อไทย” ในฐานะแกนนำรัฐบาลต้อง “ยอมถอย” เพราะจับอาการได้ว่ามีแรงกระเพื่อมจาก “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่ไม่พร้อมส่งนายกฯแพทองธาร ลงไปลุยไฟในสภาฯ  และแรงกระเพื่อมนี้ยังส่งไปเขย่าถึง อดีตนายกฯทักษิณ จนทำให้เจ้าตัวนั่งไม่ติด เพราะมีข่าวสะพัดก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะเลือก “ถอย” ว่าทักษิณ ออกแรงบีบ “พรรคร่วมรัฐบาล” ด้วยการ ขู่จะขับพ้นจากครม. หากไม่โหวตสนับสนุนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 


     การถอยร่นของพรรคเพื่อไทยจากเกมในสภาฯ รอบนี้ แม้ทั้งนายกฯและรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย จะย้ำว่า “เลื่อน” แต่ไม่ยกเลิก และในระหว่างปิดสมัยประชุมสภาฯ 2เดือนนี้ จะเป็นโอกาสทำให้สส.ได้ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับประชาชนก็ตาม แต่ใครจะการันตีได้ว่า เมื่อสภาฯเปิดขึ้นในรอบหน้า พรรคเพื่อไทยจะยังมีโอกาสลุ้นหรือไม่ !?
     

  4. เจ้าพระยา (10/04/68)

    สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ …*…

     ประเทศไทยเพิ่งได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาทจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมาร์ที่ก่อแรงสั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ ก็ต้องเตรียมตัวรับแรงกระแทกซ้ำจากมาตรการขึ้นภาษีของอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเสียหายในระดับ “หายนะ” …*…  

    ทั้งนี้เพราะการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของอเมริกาครั้งนี้ ครอบคลุมสินค้าหลายรายการจากประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าผลิตภัณฑ์ยางและยานยนต์ อาหารแปรรูปและสินค้าการเกษตรบางรายการ …*…

    ที่ผ่านมานั้น ตลาดสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าหลักอันดับ 2 ของไทย โดยมีมูลค่าส่งออกกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี การปรับขึ้นภาษีในระดับ 37% จะทำให้ราคาสินค้าไทยในตลาดสหรัฐฯ สูงขึ้นทันที ก่อให้เกิดปัญหาติดตามมาในหลายด้าน ประกอบด้วย 1.ยอดส่งออกลดลงทันที สินค้าที่ถูกเก็บภาษีในอัตราใหม่จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากประเทศอื่นที่ยังคงได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี 2.ภาคอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อการส่งออกได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ และอาหารแปรรูป อาจเผชิญปัญหายอดสั่งซื้อลดลง และอาจนำไปสู่การชะลอการผลิตหรือปรับโครงสร้างแรงงาน และ 3.ความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลงเพราะการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดอเมริกา อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนในภาคการผลิตของไทย …*…

    การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ นอกจากจะส่งผลกระทบทางตรงกับไทยแล้ว ยังส่งผลกระทบในทางอ้อมอีกด้วย โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) วิเคราะห์ว่า 1.สินค้าขั้นต้นและขั้นกลางจากไทยจะมีความต้องการนำเข้าน้อยลง เพราะสหรัฐฯกีดกันการค้าจีน อาจทำให้จีนผลิตสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯลดลง จนทำให้สินค้าขั้นต้นและขั้นกลางจากไทยที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตสินค้าจีนมีความต้องการน้อยลงไปด้วย 2.สงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตชะลอตัว โดยจีนถือเป็นประเทศคู่ค้าอันดับสองของไทย คิดเป็นสัดส่วน 11.7% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด หรือประมาณ 35,243.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเศรษฐกิจจีนซบเซาก็จะกระทบการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผักผลไม้ เครื่องดื่ม อาหาร ที่ส่งออกไปจีนจำนวนมาก 3.ปัญหาสินค้าจีนล้นตลาด เมื่อจีนส่งสินค้าไปสหรัฐฯไม่ได้ อาจทำให้สินค้าจีนผลิตออกมาเกินกว่าความต้องการ และต้องหาที่ระบายสินค้าไปยังประเทศอื่นแทน ซึ่งก็คือตลาดอาเซียนที่จะตกเป็นเป้าหมายสำคัญ เพราะมีพรมแดนติดกับจีนที่มีความสะดวกในการขนส่งสินค้า หากสินค้าจีนล้นทะลักเข้าไทยและตลาดคู่ค้าในภูมิภาค อาจทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดน้อยลง ซ้ำเติมผลกระทบทั้งภาคการผลิตและส่งออก เพราะไม่สามารถสู้สินค้าจีนที่มีต้นทุนถูกกว่าได้ …*...  

    “เรากำลังเข้าโซนอันตรายทางเศรษฐกิจ  จากท่าทีและนโยบายของทรัมป์  โอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะชะงักงันสูงมาก การค้าระหว่างประเทศลดลงแน่นอน แต่การลงทุนก็จะลดด้วย ที่ทรัมป์หวังว่าจะมีการย้ายกำลังผลิตไปที่อเมริกาจะยังไม่เกิด เพราะความไม่แน่นอนสูง CEO ทุกคนหยุดรอก่อนตัดสินใจ ตลาดเงินตลาดทุนทรุดทั่วโลก และที่ต่างกับวิกฤตในอดีต (เช่นปี 2008) คือโลกขาดผู้นำและขาดความสามัคคีที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน ผลกับเราอาจจะไม่เป็นที่ประจักษ์ทันทีทันควันเหมือน 1997, 2008 หรือปีโควิด แต่จะมีผลรุนแรงแน่นอน ดังนั้นเรายังต้องพึ่งเสถียรภาพที่สะสมมาเพื่อช่วยเรารอดจากวิกฤตที่จะเกิดนี้” คำเตือนจาก นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีคลัง …*… 

    สำหรับแนวทางการรับมือของภาครัฐและเอกชนไทยนั้น  ประการแรก ต้องเร่งเจรจาเพื่อลดผลกระทบ รัฐบาลไทยควรเดินหน้าหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านกรอบเจรจาทางการค้า เพื่อขอยกเว้นภาษีบางรายการ หรือฟื้นฟูสิทธิพิเศษที่เคยมี เช่น GSP ประการที่สอง กระจายตลาดส่งออก ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เปิดตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศที่กำลังเติบโต เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา ละตินอเมริกา และอินเดีย ประการที่สามเพิ่มมูลค่าสินค้า พัฒนาแบรนด์ผ่านนวัตกรรม ช่วยลดแรงกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่ไม่อ่อนไหวต่อราคา และประการที่สี่ สนับสนุนผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งในรูปแบบของเงินทุนหมุนเวียน ดอกเบี้ยต่ำ หรือการอบรมเพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจ …*…

    ที่สำคัญรัฐบาลต้องเร่งสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และมีแผนการช่วยเหลือทุกภาคส่วนอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะกลายเป็นประเด็นการเมืองกดดันจนรัฐบาลอยู่ต่อไม่ได้ …*…

    ข่าวสังคมทั่วไป ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย. เวลา  09.00 น. ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาทางวิชาการเนื่องในวาระศาลรัฐธรรมนูญครบ 27 ปี หัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญกับการก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 บทบาทและความคาดหวัง” จัดโดย สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ห้องอัศวิน แกรนด์ เอ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น ...*...

    16.00 น. สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน “ICONSIAM THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION 2025” งานมหาสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด The legendary Festival of Waters สาดสนุกมหาสงกรานต์ สายธารแห่งเสน่ห์ไทย พร้อมด้วย สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กก.ผจก.ไอคอนสยาม ที่ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม     

     

    สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นประธานการจัดงาน บางกอก เชฟ แชริตี้ ครั้งที่ 12 ประจำปี 2568 โดยมี นันทิยา อินทรลิบ กก.ผจก. ชีวานันท์ และ กก.ผจก.โรงแรมชั้นนำ ผู้สนับสนุน เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ

    เปิดโครงการ...พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาความร่วมมือในการขับเคลื่อนภารกิจด้านความปลอดภัยในการทำงาน มุ่งสู่วัฒนธรรมความปลอดภัยที่ยั่งยืน โดยมี บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ร.อ.สาโรจน์ คมคาย รองปลัดกระทรวงแรงงาน  และ มารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ให้การต้อนรับ ที่ โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ เมื่อวันก่อน

    สนับสนุน...มูลนิธิสิริวัฒนภักดี และ ไทยเบฟเวอเรจ โดย ภาวินี ไชยสิทธิ์ และ ดร.นภัส พันธ์พงษ์เจริญ เป็นผู้แทนมอบเงินสนับสนุนการจัดงาน “เดิน-วิ่ง การกุศล Recycle for Life “We can run : Fund for legs” ปี 2 เพื่อสมทบทุนมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี โดยมี ปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และ กุลิศ สมบัติศิริ กรรมการมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นผู้แทนรับมอบ ที่ท้องสนามหลวง

    สุขสยามมหาสนุก...เอิบลาภ ศรีภิรมย์ ผอ.ฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว ททท. เป็นประธานเปิดงาน “สุขสยาม  มหาสงกรานต์ มหาสนุก” ภายใต้คอนเซ็ปต์  “สุขสนุก ผ้าขาวม้าไทย” จัดโดยเมืองสุขสยาม เพื่อร่วมสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมอันงดงาม และประเพณีดั้งเดิมอันทรงคุณค่า โดยมี บัญชา ฉันทดิลก อนนต์ อัตถวิบูลย์ สุรพล เศวตเศรณี ผศ.บวรนรรฏ อัญญะโพธิ์ ณภัชป์ รัตนศักดิ์ รวี อ่างทอง และ ทิพวรรณ มิ่งมงคล ร่วมงาน ที่เมืองสุขสยาม ชั้น G  ไอคอนสยาม

    มอบทุนการศึกษา...ศิริลักษณ์ ภัทรประสิทธิ์ ไม้ไทย รอง ปธ.กก.บห.กลุ่มทรัพยากรบุคคล เดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาแก่พนักงานและบุตรพนักงาน บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ประจำปี 2567 โดยมี ผุสดี พันธุมพันธ์ ณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ และ อมร อมรกุล ร่วมงาน ที่ Q STADIUM ชั้น เอ็ม ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์

    นำเสนอคอลเลกชัน...พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง Asava ร่วมกับ ลิวอิส ควินน์ ผจก.โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ จัดงาน Asava X The Ritz-Carlton, Bangkok นำเสนอคอลเลกชัน Echoes of Sublime Summer ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ที่ Caleō ได้ร่วมรังสรรค์ Afternoon Tea โดยมี เข็มอัปสร สิริสุขะ นิษฐา  คูหาเปรมกิจ สู่ขวัญ  บูลกุล และ ธัญชนก กู๊ด ร่วมงาน ที่ โรงแรม เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ

    สาขาแรก...ศิริพร แผลงจันทึก Country General Manager ป๊อป มาร์ท (ประเทศไทย) จัดงานอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ HELLO CENTRAL WESTGATE เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสาขากรุงเทพฯ โซนตะวันตกสาขาแรก โดยมี มนธภูมิ สุมนวรางกูร ชยภัค ตันประยูร, อมรรัตน์ บรรยงก์สินธุ์ ไมคา ตามไท มหิดล พิบูลสงคราม และ เลออน เซ็ค ร่วมงาน ที่ POP MART @ CENTRAL WESTGATE ชั้น 1 โซน Purple ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต

    คนรักแมว...กุลวดี จินตวร ผอ.บห.อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ เปิดงาน "Thailand Cat Lovers Fair 2025" งานแสดงสินค้าและบริการสำหรับคนรักแมวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อสร้างพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และกิจกรรมสำหรับผู้ที่รักแมว รายได้ส่วนหนึ่งจากค่าเข้าชมสมทบทุน “โครงการ 1 บาทเพื่อเจ้าตูบที่หิวโหย”  โดย มี นันทพล ตันติวงศ์อำไพ กิตติ์ธนัสถ์ ศรีกฤษณรักษ์ และ นสพ.ฏิฏิภัฏฏ์ เลาหประเสริฐศิริ ร่วมงาน ที่อาคาร 8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

                                                                                                                

     

     

     

       

          

     

     

     

     

     

  5. ภัยพิบัติ-ไทยวิบัติ (2)

    สถาพร ศรีสัจจัง

    นี่คือกระแสพระราชดำรัสที่สำคัญมากตอนหนึ่งเกี่ยวกับความสำคัญของ “ภาษาไทย” ที่สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระราชทานไว้ให้แก่ปวงชนชาวไทย ครั้งเมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทรงอภิปรายเรื่อง “ปัญหาการใช้คำไทย” ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505

    อันเป็นที่มาของการเกิด “วันภาษาไทยแห่งชาติ” ขึ้น โดยมติครม.ซึ่งเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชาวจังหวัดตรังที่ชื่อ นายชวน  หลีกภัย แห่งพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 โดยมีมติให้ประกาศว่า ให้วันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็น “วันภาษาไทยแห่งชาติ”!

    “ภาษาไทย” เป็นภาษาที่มีความเป็นมาเก่าแก่ที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภาษาที่มีรากฐานมาจากกลุ่ม “ออสโตร-ไต” ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับภาษาจีน ต่อมาพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย เป็นผู้คิดประดิษฐ์ให้เป็นระบบขึ้น เมื่อปี พ.ศ.1826 โดยกำหนดให้มีพยัญชนะ 44 ตัว (21 เสียง) มีสระ 21 รูป(32 เสียง) และวรรณยุกต์ 5 เสียง คือ สามัญ เอก โท ตรี และ จัตวา

    พระราชดำรัสในการทรงอภิปรายที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2505 ที่ได้รับการกล่าวขวัญสืบๆต่อกันมานั้น มีสาระสำคัญมากตอนหนึ่งดังนี้ :

    “…เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือ ให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่า วิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สาม คือ ความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้...สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่าย ๆ ก็ควรจะมี ควรจะใช้คำ

    เก่า ๆ ที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก”

    พระราชดำรัสนี้เกิดขึ้นประหนึ่งว่าพระองค์ท่านจะทรงเห็นถึง “การณ์” ที่เกิดข้างหน้า ว่า “ภาษาไทย” ซึ่งเป็นมรดกสำคัญยิ่งของชาติ เพราะเป็นเครื่องสำแดงความเป็น “เอกลักษณ์” (Identity)ของกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ใน “ประเทศไทย” (แม้จะเป็น “รัฐชาติ” สมัยใหม่ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ย่อยๆหลากหลายที่มี “ภาษา” เป็นของตัวเองอยู่ร่วมกันก็เถอะ)อาจจะต้อง “วิบัติ” เพราะความไม่ตระหนักของคนบางกลุ่มบางพวก

    พระองค์เองนั้นทรงมีพระราชสมภพและการศึกษาในต่างประเทศโดยตลอด แต่กลับทรงตระหนักถึง “คุณค่า” และ ความสำคัญของ “ภาษาไทย” อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่าน ทรงให้ความสำคัญกับ “การใช้ภาษาไทย” อย่างสอดคล้องกับ “พื้นที่และเวลา” ตลอดมา เมื่อใดที่พระองค์ท่านทรงตรัสต่อสาธารณชน จึงแทบไม่เห็นภาษาอังกฤษหรือภาษาของบรรดา “จักรพรรดินิยมตะวันตก” ทั้งหลายแทรกปนอยู่เลย!

    ช่างแตกต่างอย่างเทียบไม่ได้กับกลุ่มคน “ชนชั้นนำ” ทางสังคมของประเทศไทยปัจจุบัน ที่ล้วนเป็น “ผู้ทรงอิทธิพล” (Infruencer!) ต่อคนทั้งประเทศ เพราะ “การใช้ภาษา” ของพวกเขาเหล่านี้มักเป็นการสื่อตรงต่อสาธารณชนทั้งสิ้น

    สาธารณชน ที่มีทั้งชาวนา ชาวไร่ชาวสวน กรรมกร คนในสลัม ฯลฯ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และรวมถึงบรรดาเยาวชน ซึ่งจะเป็น “อนาคตของชาติ”!

    ทุกครั้งที่ชนชั้นนำเหล่านี้ ที่มีตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าฯ ข้าราชการชั้นสูง ฯลฯ และที่สำคัญคือสื่อมวลชนประเภทวิทยุโทรทัศน์(ทั้งผู้ประกาศและนักจัดรายการทั้งหลาย)ที่ต้องใช้ “ภาษาไทย” ผ่าน “สื่อ”

    ถ้าใครจะสังเกตอย่างละเอียด ก็จะพบว่า กลุ่มคนเหล่านี้เองที่กำลังสร้างภาวะ “ภาษาไทยวิบัติ” ให้กับสังคมไทยอยู่!

    พวกเขาสร้างความ “วิบัติ” ให้กับ “ภาษาไทย” แบบที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ทรงบอกไว้ทั้ง 2 ประการ ประการแรกคือ “ให้ออกเสียงให้ชัดเจน” และ ประการต่อมาคือ “ควรจะใช้คำเก่าที่เรามีอยู่แล้ว” (ศัพท์บัญญัติที่ส่วนใหญ่เป็น “ศัพท์เทคนิค” นั่นถือว่าพอกล้อมแกล้ม!)

    “การออกเสียงไม่ชัดเจน” (ที่เป็นกันมากก็คือการออกเสียง'ควบกล้ำ'และการออกเสียงร.เรือ ล.ลิง) ส่วนใหญ่จะเห็นได้จากกลุ่มผู้ประกาศและนักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ (ผ่านการสอบของกรมประชาสัมพันธ์เหมือนแต่ก่อนหรือเปล่า?) ส่วนการพูด “ไทยคำอังกฤษคำ” หรือ “ใช้ภาษาอังกฤษอย่างไม่จำเป็น” นั้น จะเห็นได้แบบ “ปกติทั่วไป” จากผู้บริหารประเทศระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับ “นายกรัฐมนตรี” จนถึงผู้บริหารระดับลูกน้อง เช่น ผู้ว่าฯและรองผู้ว่าฯ กทม. เป็นต้น

    ใครไม่เชื่อก็ลองกลับไปคลิกดูคลิปเก่าๆที่ “นายกฯอุ๊งอิ๊ง” แถลงข่าวเรื่อง “แผ่นดินไหว-ตึกถล่ม”ครั้งแรกดูซิ แทนที่ท่านนายกฯจะพูดว่า “ลงทะเบียน” (คำไทยง่ายๆที่ชาวบ้านเข้าใจได้)ท่านกลับพูดว่า “รีจิสเตอร์(register)” ถึงอย่างน้อยก็สองครั้งสองหน ส่วนท่านรองฯ รศ.ทวิดา กมลเวชช ของท่านผู้ว่าชัชชาติฯแห่ง กทม.(ที่ใครๆชมกันว่าเก่งนักเก่งหนานั่น) ก็ติดคำว่า “อัปเดต” (update)จนลืมคำไทยไปเหมือนกัน

    นี่แค่เป็นตัวอย่างจิ๊บๆเท่านั้น ของจริงยังมีอีกเป็นกะตั๊ก!

    ท่ามกลาง “ภัยพิบัติ” ที่กำลังโหมกระหน่ำสังคมไทยทั้งด้านกายภาพ เช่น แผ่น

    ดินไหว น้ำท่วมน้ำแล้ง ฝุ่นพิษ เศรษฐกิจตกต่ำฯลฯและด้านจิตภาพ(คุณค่าทางสังคม) เช่นคนติดยา ศาสนาเสื่อม รากเหง้าวัฒนธรรมขาดสะบั้น ฯลฯจนถึงความเสื่อมของการใช้ “ภาษาไทย” (ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ทรงเป็นห่วง)ซึ่ง คือ “ราก” ทางวัฒนธรรมทรงคุณค่า อันแสดงถึงความมี “อารยะ” ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของชาติ ภาวะแบบนี้ถ้าจะไม่ให้เรียกว่า “ไทยวิบัติ” แล้วจะให้เรียกว่าอะไรเล่าพ่อเจ้าประคุณทูนหัว!!